แผนแม่บทโครงการบ้านมั่นคง "กลุ่มอุดมสุข" เกาะสมุย
วิสัยทัศน์
“สร้างชุมชนที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและยั่งยืน (Sustainable & Secure Community) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาสในการสร้างอาชีพ รายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกลุ่มอุดมสุขทุกคน ผ่านการบริหารจัดการแบบสหกรณ์ที่มีส่วนร่วม โปร่งใส และพึ่งพาตนเองได้”
1. ภาพรวมโครงการ (Project Overview)
- ชื่อโครงการ: กลุ่มอุดมสุข
- ที่ดินเป้าหมาย: ซอยพ่อตาหลาพลับ, อ.เกาะสมุย, จ.สุราษฎร์ธานี
- ขนาดที่ดิน: 10 ไร่
- งบประมาณ:
- ค่าที่ดิน: 35,000,000 บาท
- ค่าก่อสร้าง (ประมาณ): 500,000 บาท/คน (หรือต่อยูนิต)
- เงื่อนไขสินเชื่อ: ผ่อนชำระ 15 - 25 ปี
- จำนวนสมาชิกเป้าหมาย: 150 - 200 ยูนิต
- ลักษณะโครงการ: โครงการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสาน (Mixed-use) พร้อมพื้นที่พาณิชยกรรมและสันทนาการ
2. การจัดสรรพื้นที่ (Zoning & Land Use Plan) - 10 ไร่
การแบ่งโซนเป็นหัวใจสำคัญของโครงการเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตที่แตกต่างกันและง่ายต่อการบริหารจัดการ
พื้นที่ที่อยู่อาศัย (5 ไร่):
- Zone A: บ้านแฝด 2 ชั้น: สำหรับครอบครัวที่มีความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ระดับหนึ่ง ต้องการพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัว
- Zone B: Townhome 2 ชั้น: สำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือความสามารถในการออมจำกัด เพื่อให้สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มั่นคงได้
- Zone C: Homestay: สำหรับสมาชิกที่ต้องการสร้างรายได้เสริมจากการท่องเที่ยว โดยจัดเป็นกลุ่มเพื่อบริหารจัดการร่วมกัน สร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน
พื้นที่อาคารชุดและพาณิชยกรรม (2 ไร่):
- อาคารชุด 4 ชั้น:
- ชั้น 1: Community Mall, สำนักงานสหกรณ์, ห้องประชุมอเนกประสงค์, และพื้นที่สำหรับธุรกิจสหกรณ์ (เช่น 7-Eleven, ขนส่งเอกชน)
- ชั้น 2-4: ห้องชุดพักอาศัย สำหรับสมาชิกที่ต้องการความสะดวกสบายหรือมีงบประมาณจำกัด
พื้นที่สาธารณประโยชน์และสันทนาการ (3 ไร่):
- ถนน, ไฟฟ้า, ประปา, คูระบายน้ำ และอื่นๆ
- สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, ลานกีฬา
- พื้นที่สำหรับ "ประปาหมู่บ้าน": แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างยั่งยืน
- พื้นที่สำหรับ "ธนาคารขยะชุมชน"
- ลานจอดรถส่วนกลางสำหรับกิจการสหกรณ์
3. แผนการดำเนินงาน (Phasing Plan)
เฟส 1: การก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ (75-85 หลัง)
- เป้าหมาย: สร้างบ้านแฝดและทาวน์โฮม เพื่อนำสมาชิกกลุ่มแรกเข้าที่อยู่อาศัยโดยเร็ว
- กิจกรรมหลัก: เตรียมพื้นที่, วางระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน (ถนน, ไฟฟ้า, ท่อระบายน้ำ), ก่อสร้างบ้านตามโซน(กลุ่มอาชีพ)
เฟส 2: การก่อสร้างอาคารชุดและพื้นที่ส่วนกลาง
- เป้าหมาย: สร้างศูนย์กลางของชุมชน(Community Mall) บริเวรชั้นที่ 1 และที่อยู่อาศัยแนวสูง 90+ ยูนิต
- กิจกรรมหลัก: ก่อสร้างอาคารชุด 4 ชั้น (ชั้นที่ 2-4 สำหรับที่พักอาศัย) ชั้น 1 เป็นสำนักงานสหกรณ์,ห้องประชุม,และกิจการของสหกรณ์ในพื้นที่ Community Mall
4. แผนพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ (Co-op Business Development)
เพื่อสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และสร้างงานให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
ประเภทการลงทุน | กิจการ | เป้าหมาย/ประโยชน์ |
---|---|---|
ดำเนินการโดยสหกรณ์ | "ประปาหมู่บ้าน, โรงจอดรถ, ห้องเช่า/บ้านเช่าสวัสดิการ, ให้เช่าห้องประชุม" | "ลดรายจ่ายสมาชิก, สร้างรายได้ที่มั่นคงให้สหกรณ์, แก้ปัญหาที่จอดรถและ NPL" |
แฟรนไชส์ | "7-Eleven, Kerry/Flash Express, Otteri Wash & Dry" | "สร้างรายได้สูง, สร้างงาน, อำนวยความสะดวกให้สมาชิก" |
ร่วมกับภาครัฐ | ศูนย์รับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน/ประปาหมู่บ้าน | "ลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง, ต้องการการสนับสนุนจากท้องถิ่น,แก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำ" |
ร่วมกับสมาชิก | "กิจการโฮมสเตย์ (Homestay),ปลูกผัก,การบริการด้านการท่องเที่ยว,และสันทนาการ" | "สร้างรายได้เสริมให้สมาชิกโดยตรง, ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน" |
ให้เช่าพื้นที่ | "ร้านอาหาร, ร้านค้าอื่นๆ" | "สร้างรายได้ค่าเช่าให้สหกรณ์, เพิ่มความหลากหลายของบริการ" |
5. กฎการอยู่ร่วมกัน
อ้างอิงจากผลสำรวจความต้องการของสมาชิก เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด
- ด้านยาเสพติด: มาตรการเด็ดขาด (แจ้งความ, ตัดสิทธิ์สมาชิก) และการให้โอกาส (บำบัด, รายงานตัว)
- ด้านทรัพย์สิน: บทลงโทษชัดเจนกรณีลักทรัพย์, ทำลายทรัพย์สิน, พร้อมแนวทางปฏิบัติเรื่องการปลูกต้นไม้และแนวเขต
- ด้านความสงบเรียบร้อย: กฎระเบียบเรื่องทะเลาะวิวาท, การใช้เสียง, การประชุม, การควบคุมเยาวชน และการรักษาความสะอาด
- ด้านการจราจร: กำหนดความเร็ว, ที่จอดรถ (1 คัน/บ้าน), ค่าบริการสำหรับคันที่ 2, ห้ามจอดในที่ห้าม, จำกัดน้ำหนักรถบรรทุก
- ด้านสัตว์เลี้ยง: บังคับเลี้ยงในระบบปิด, มีบทปรับที่ชัดเจนกรณีสร้างความเดือดร้อน (ขับถ่าย, ทำลายทรัพย์สิน, เสียงดัง)
6. การบริหารจัดการและเทคโนโลยี
ใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใสและประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้แนวคิด “บัญชีเล่มเดียว”
สำหรับสมาชิก:
- SmartMe: บันทึกบัญชีครัวเรือนและต้นทุนอาชีพ
- SmartMember: ตรวจสอบข้อมูลและสถานะทางการเงินกับสหกรณ์ได้ 24 ชม.
สำหรับคณะกรรมการ:
- SmartManage: ติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์ได้แบบ Real-time
สำหรับผู้ตรวจสอบ:
- SmartMonitor: ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเงิน ลดความเสี่ยงทุจริต
การเชื่อมโยงข้อมูล (Big Data):
พัฒนาระบบฐานข้อมูลครัวเรือนร่วมกับท้องถิ่น โดยสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลแบบซอฟต์แวร์ตัวกลางระหว่างซอฟต์แวร์อื่น (API) เพื่อเป็น "Sand Box" นำร่องของเกาะสมุยในการเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐ
การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลอาชีพของสมาชิกสนับสนุนแนวคิดการแบ่งโซนที่อยู่อาศัยตามแผนได้อย่างชัดเจน
กลุ่มอาชีพหลัก | จำนวน (คน) | แนวทางการจัดโซนที่เหมาะสม |
---|---|---|
พนักงานโรงแรม / งานบริการ | 25 | "อาคารชุด: เหมาะกับผู้ที่ทำงานเป็นกะ, ต้องการความสะดวกในการเดินทาง" |
ค้าขาย / ธุรกิจส่วนตัว | 22 | Zone ธุรกิจ (อาคารพาณิชย์) / Homestay: มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจ |
รับจ้างทั่วไป | 20 | Townhome / อาคารชุด: เหมาะสมกับระดับรายได้ |
พนักงานบริษัท | 12 | บ้านแฝด / Townhome: สำหรับผู้มีรายได้ประจำที่มั่นคง |
ขับรถ / ขนส่ง | 10 | Townhome / อาคารชุด: กลุ่มอาชีพที่ต้องการที่จอดรถที่แน่นอน |
"อื่นๆ (เกษตร, แม่บ้าน)" | 10 | พิจารณาตามความต้องการและรายได้เป็นรายบุคคล |
การวิเคราะห์ข้อมูลจากสมาชิกเกี่ยวกับพฤติกรรมการออม
ข้อมูลนี้เกี่ยวกับ "วินัยและความสม่ำเสมอ" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ดีสำหรับความสามารถในการชำระหนี้รายเดือน จากการศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการออมในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจดังนี้:
ยอดออมเฉลี่ยต่อเดือนของกลุ่มทั้งหมด: ประมาณ 5,100 บาท (แสดงถึงกระแสเงินสดที่หมุนเวียนได้ดีในกลุ่ม)
การแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการออม:
- กลุ่มที่ 1: "กลุ่มวินัยสูง" (ออมสม่ำเสมอ 10-12 เดือน)
- จำนวน: 65 คน (คิดเป็น 65.7% ของสมาชิกทั้งหมด)
- ลักษณะเด่น: สมาชิกในกลุ่มนี้มีความสม่ำเสมอในการออมสูง บางคนออมครบทุกเดือนโดยไม่ขาด กลุ่มนี้เป็นแกนหลักและมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
- กลุ่มที่ 2: "กลุ่มประคองตัว" (ออมสม่ำเสมอ 6-9 เดือน)
- จำนวน: 24 คน (คิดเป็น 24.2%)
- ลักษณะเด่น: กลุ่มนี้สามารถรักษาการออมได้ดี แต่บางเดือนอาจมีการขาดส่งบ้างซึ่งอาจเกิดจากรายได้ที่ไม่มั่นคง (เช่น งานรับจ้าง, ค้าขายตามฤดูกาล) จำเป็นต้องมีการติดตามและอาจต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมด้านการบริหารเงิน
- กลุ่มที่ 3: "กลุ่มต้องดูแลพิเศษ" (ออมน้อยกว่า 6 เดือน)
- จำนวน: 10 คน (คิดเป็น 10.1%)
- ลักษณะเด่น: กลุ่มนี้มีการออมที่ขาดหายอยู่บ่อยครั้ง มีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้หากได้รับอนุมัติสินเชื่อ จำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือหรือพัฒนาศักยภาพเป็นพิเศษ
การวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มอุดมสุข (ในด้านอื่น ๆ)
- การกระจุกตัวของผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยในกลุ่มอุดมสุข: ผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของกลุ่มอุดมสุขอยู่ในตำบลบ่อผุดจำนวน 94 ราย ตามมาด้วยตำบลแม่น้ำ 9 ราย และตำบลอื่น ๆ
- ลักษณะอาชีพของผู้รับผลประโยชน์: อาชีพที่มีจำนวนมากที่สุดคือ "พนักงานโรงแรม/งานบริการ" (25 ราย) ตามมาด้วย "รับจ้าง" (20 ราย) และ "ค้าขาย" (22 ราย) ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจของเกาะสมุยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและบริการ
- ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย:
- แบบบ้าน: แบบบ้านที่นิยมมากที่สุดคือ "บ้านแฝด 2 ชั้น" (66 ราย) นอกจากนี้ยังมีผู้รับผลประโยชน์ที่เลือก "บ้าน HOMESTAY" จำนวน 18 ราย ซึ่งอาจสอดคล้องกับลักษณะการประกอบอาชีพในพื้นที่ท่องเที่ยว
- สถานะการรับรองสิทธิ์: ผู้รับผลประโยชน์ส่วนใหญ่ได้รับการรับรองสิทธิ์แล้ว (92 ราย) ขณะที่ยังไม่ได้รับการรับรองสิทธิ์มีจำนวน 32 ราย
- การเข้าร่วมกลุ่มอาชีพ: กลุ่มที่มีสมาชิกมากที่สุดคือ "กลุ่ม private" (19 ราย), "กลุ่ม homestay" (18 ราย), และ "กลุ่ม food & beverage" (18 ราย) ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะอาชีพและแบบบ้านที่พบ
- ข้อมูลเชิงตัวเลขเบื้องต้น:
- อายุ: อายุเฉลี่ยของผู้รับผลประโยชน์ประมาณ 44 ปี โดยมีช่วงอายุตั้งแต่ 19 ถึง 69 ปี
- เงินออมตนเอง: เงินออมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 46,253 บาท โดยมีการกระจายตัวของเงินออมค่อนข้างมาก
- รายได้: รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 34,257 บาท (จากข้อมูลที่มี)
- รายจ่าย: รายจ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 29,370 บาท (จากข้อมูลที่มี)
- ความสามารถในการชำระคืน: ความสามารถในการชำระคืนเฉลี่ยอยู่ที่ 5,100 บาท (รวมทั้งกลุ่ม) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาความเหมาะสมในการขอสินเชื่อ
- จำนวนสมาชิกในครัวเรือน: โดยเฉลี่ยมีสมาชิกในครัวเรือนประมาณ 3 คน
ยอดเงินสุทธิ
รายการ | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|
ยอดเงินออมสุทธิ | "5,575,147" |
ยอดเงินบริหารจัดการสุทธิ | "135,100" |
ค่าสมัคร | "11,800" |
บทสรุป
โครงการบ้านมั่นคง "กลุ่มอุดมสุข" คือโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงบูรณาการบนพื้นที่ 10 ไร่ ณ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัยและต้นทุนค่าครองชีพที่สูงของประชากรผู้มีรายได้น้อยและปานกลางในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานหลักในภาคบริการและการท่องเที่ยว โครงการมีวิสัยทัศน์ในการ "สร้างชุมชนที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและยั่งยืน" ผ่านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-use) ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย 3 รูปแบบ (บ้านแฝด, ทาวน์โฮม, อาคารชุด) จำนวน 75-85 ยูนิตในเฟสแรก พร้อมจัดตั้งธุรกิจสหกรณ์เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และลดรายจ่ายให้แก่สมาชิก
ด้วยงบประมาณการลงทุนค่าที่ดิน 35 ล้านบาท และค่าก่อสร้างประมาณ 500,000 บาทต่อยูนิต โครงการจะถูกบริหารจัดการโดยสหกรณ์ที่อยู่อาศัยของกลุ่มสมาชิกเอง ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วม โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการเพื่อความโปร่งใส แผนแม่บทฉบับนี้ได้ทำการวิเคราะห์ศักยภาพโครงการ ชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งด้านความเข้มแข็งของกลุ่มสมาชิกและแผนธุรกิจที่ชัดเจน พร้อมทั้งวางแนวทางการบริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความท้าทายในระยะสั้นและระยะยาว อันจะนำไปสู่การสร้างชุมชนต้นแบบที่พึ่งพาตนเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน
1. หลักการและเหตุผล
เกาะสมุยในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ประสบกับภาวะความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย (Housing Insecurity) อันเนื่องมาจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์และค่าครองชีพที่สูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชากรกลุ่มแรงงานภาคบริการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาะ สมาชิกกลุ่มอุดมสุขซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานโรงแรม ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของค่าเช่าบ้านและขาดโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
โครงการบ้านมั่นคง "กลุ่มอุดมสุข" จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว โดยน้อมนำแนวทางของโครงการบ้านมั่นคงโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) มาปรับใช้ สร้างกระบวนการแก้ไขปัญหาที่เริ่มต้นจากฐานราก คือการรวมกลุ่มของชุมชนผู้เดือดร้อนเอง เพื่อวางแผนและบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และบริบททางสังคมของตนเองอย่างแท้จริง
2. วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มั่นคงในราคาที่เข้าถึงได้ให้แก่สมาชิกกลุ่มอุดมสุข
- เพื่อจัดตั้งและดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ชุมชน สร้างรายได้หมุนเวียน ลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างตำแหน่งงานให้แก่สมาชิก
- เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการจัดสรรพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพและการวางกฎระเบียบการอยู่ร่วมกัน
- เพื่อส่งเสริมกระบวนการบริหารจัดการชุมชนแบบมีส่วนร่วม โปร่งใส และพึ่งพาตนเองได้ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
- เพื่อสร้างชุมชนต้นแบบด้านการจัดการที่อยู่อาศัย ทรัพยากร และสวัสดิการสังคม สำหรับผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่เกาะสมุย
3. การวิเคราะห์ศักยภาพและความเป็นไปได้ของโครงการ (SWOT Analysis)
จุดแข็ง (Strengths) - ปัจจัยภายใน | จุดอ่อน (Weaknesses) - ปัจจัยภายใน |
---|---|
1. ความเข้มแข็งของกลุ่ม: สมาชิก 99 คน มีอัตราการคงอยู่สูงและมีวินัยในการออม (65.7% อยู่ในกลุ่มวินัยสูง) | 1. ความเหลื่อมล้ำทางศักยภาพ: สมาชิกมีความสามารถในการผ่อนชำระและวินัยทางการเงินแตกต่างกัน (10% เป็นกลุ่มต้องดูแลพิเศษ) |
"2. แผนธุรกิจชัดเจน: มีแผนพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ที่หลากหลาย (ค้าปลีก, บริการ, ให้เช่า) เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน" | 2. การพึ่งพาคณะกรรมการ: การดำเนินงานในช่วงแรกต้องอาศัยการเสียสละของคณะกรรมการ ซึ่งอาจเกิดภาวะหมดไฟ (Burnout) ได้ |
"3. ข้อมูลเชิงลึก: มีการวิเคราะห์ข้อมูลสมาชิกทั้งด้านอาชีพและพฤติกรรมการออม ทำให้วางแผนได้ตรงจุด" | "3. ทักษะการบริหารจัดการ: สมาชิกและกรรมการอาจยังขาดทักษะในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่และธุรกิจที่มีความซับซ้อน" |
4. ที่ตั้งมีศักยภาพ: ที่ดินโครงการอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว สามารถต่อยอดธุรกิจโฮมสเตย์และบริการต่างๆ ได้จริง | |
โอกาส (Opportunities) - ปัจจัยภายนอก | อุปสรรค (Threats) - ปัจจัยภายนอก |
1. นโยบายภาครัฐ: โครงการบ้านมั่นคงได้รับการสนับสนุนจาก พอช. ทั้งด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและองค์ความรู้ | 1. ความผันผวนทางเศรษฐกิจ: เศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมีความอ่อนไหวสูง อาจกระทบต่อรายได้ของสมาชิก |
"2. เศรษฐกิจเกาะสมุย: ความต้องการบริการต่างๆ (ซักรีด, ร้านสะดวกซื้อ, ขนส่ง) มีอยู่ตลอดเวลา เอื้อต่อธุรกิจสหกรณ์" | 2. ต้นทุนก่อสร้าง: ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงมีแนวโน้มสูงขึ้น อาจกระทบต่องบประมาณโครงการ |
3. เทรนด์การท่องเที่ยวชุมชน: นักท่องเที่ยวเริ่มมองหาประสบการณ์ท้องถิ่น (Local Experience) ซึ่งเป็นโอกาสของโซนโฮมสเตย์ | 3. ปัญหาทรัพยากร: เกาะสมุยมีความเสี่ยงด้านการขาดแคลนน้ำจืด ซึ่งเป็นทั้งอุปสรรคและโอกาสของโครงการประปาหมู่บ้าน |
"4. เทคโนโลยีดิจิทัล: มีแอปพลิเคชัน (SmartMe, SmartMember) ที่พร้อมใช้งาน ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ" | 4. กฎระเบียบและข้อบังคับ: การขออนุญาตก่อสร้างและการจัดตั้งธุรกิจบางประเภทอาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน |
4. การบริหารความเสี่ยงและแนวทางการแก้ไขปัญหา
ระยะสั้น (ช่วงก่อสร้าง 1-2 ปี)
"ความเสี่ยง" | ผลกระทบ | แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา |
---|---|---|
1. การเงิน: งบประมาณบานปลาย / เงินทุนหมุนเวียนสะดุด | "โครงการล่าช้า, ต้องลดคุณภาพวัสดุ, สมาชิกเสียความเชื่อมั่น" | "ป้องกัน: จัดทำประมาณการต้นทุนที่รัดกุมโดยมีงบสำรองฉุกเฉิน 10-15%, เจรจาต่อรองกับผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ แก้ไข: จัดลำดับความสำคัญของงานก่อสร้าง, ขอสินเชื่อระยะสั้นเพิ่มเติม, ประชุมชี้แจงสมาชิกอย่างโปร่งใส" |
2. การดำเนินงาน: ผู้รับเหมาทิ้งงาน / การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน | "คุณภาพที่อยู่อาศัยต่ำ, ต้นทุนซ่อมแซมสูงในอนาคต" | "ป้องกัน: ทำสัญญาที่รัดกุมและแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดตามความคืบหน้าของงาน, จัดตั้งทีมสมาชิกวิศวกร/ช่างเพื่อร่วมตรวจสอบคุณภาพงาน" |
3. สังคม: ข้อขัดแย้งในการจัดสรรบ้าน / ความไม่พอใจในกฎระเบียบ | "ความสามัคคีในกลุ่มลดลง, เกิดการคัดค้าน ไม่ให้ความร่วมมือ" | "ป้องกัน: ใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์ไว้ (ศักยภาพการเงิน, อาชีพ) มาสร้างเกณฑ์การจัดสรรที่โปร่งใสและเป็นธรรม, จัดประชุมรับฟังความเห็นเรื่องกฎระเบียบก่อนประกาศใช้จริง" |
ระยะยาว (ช่วงเข้าอยู่และดำเนินงาน)
ในช่วงการดำเนินงานระยะยาวของสหกรณ์ มีความเสี่ยงหลายด้านที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน ขอนำเสนอแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาในแต่ละด้านดังนี้:
ความเสี่ยง | ผลกระทบ | แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา |
---|---|---|
"1. การเงิน: สมาชิกผิดนัดชำระหนี้ (เกิด NPL)" | "สหกรณ์ขาดสภาพคล่อง, กระทบต่อการชำระหนี้กับสถาบันการเงิน" | "ป้องกัน: ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการออมคัดกรองผู้กู้, จัดโปรแกรม ""ทดลองออมเท่าค่างวดจริง"", จัดตั้งกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (เจ็บป่วย, ว่างงาน) แก้ไข: มีกระบวนการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้, นำรายได้จากธุรกิจสหกรณ์มาพยุงสภาพคล่อง" |
2. ธุรกิจ: กิจการสหกรณ์ขาดทุน / ไม่สามารถแข่งขันได้ | สหกรณ์ขาดรายได้ในการพัฒนาชุมชนและช่วยเหลือสมาชิก | "ป้องกัน: เริ่มจากธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำและเป็นที่ต้องการสูง (เช่น ร้านสะดวกซื้อ, เครื่องซักผ้า), ทำแผนธุรกิจสำหรับแต่ละกิจการ แก้ไข: จัดทำบัญชีของแต่ละธุรกิจแยกกันเพื่อวิเคราะห์ผลกำไร, ปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการ, หาพันธมิตรทางธุรกิจ" |
3. การบริหาร: คณะกรรมการหมดวาระ/หมดไฟ / ขาดผู้สืบทอดที่มีศักยภาพ | "การดำเนินงานของสหกรณ์หยุดชะงัก, ขาดการพัฒนาต่อเนื่อง" | "ป้องกัน: สร้างระบบบริหารจัดการโดยมืออาชีพ (จ้างผู้จัดการสหกรณ์จากสมาชิกที่มีศักยภาพ), จัดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อกระจายงาน, จัดอบรมพัฒนาศักยภาพสมาชิกรุ่นใหม่" |
4. สิ่งแวดล้อม: ปัญหาขยะ / การขาดแคลนน้ำทวีความรุนแรง | "คุณภาพชีวิตในชุมชนตกต่ำ, เกิดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคสูง" | "ป้องกัน: ดำเนินโครงการ ""ธนาคารขยะ"" และ ""ประปาหมู่บ้าน"" อย่างจริงจัง, รณรงค์ให้ความรู้เรื่องการประหยัดน้ำและพลังงาน แก้ไข: นำรายได้จากการขายขยะรีไซเคิลมาเป็นสวัสดิการ, พิจารณาลงทุนในเทคโนโลยีบำบัดน้ำหรือแหล่งน้ำสำรองเพิ่มเติม" |
5. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ด้านเศรษฐกิจ:
สมาชิกมีที่อยู่อาศัยมั่นคง ลดภาระค่าเช่าได้กว่า 150 - 200 ครัวเรือน, เกิดการจ้างงานในชุมชน, และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากธุรกิจสหกรณ์
ด้านสังคม:
ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม, สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็งเกื้อกูลกัน และเป็นต้นแบบการพัฒนาให้พื้นที่อื่น
ด้านสิ่งแวดล้อม:
มีการจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบ, แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและจัดการขยะได้อย่างยั่งยืน
เอกสารฉบับนี้ได้ประมวลข้อมูลและวิเคราะห์อย่างรอบด้าน เพื่อยืนยันถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ของโครงการฯ ทางกลุ่มอุดมสุขมีความพร้อมที่จะดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการพิจารณาและสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง